แด่...หลวงเมือง , หมอทรัพย์สวนพูล

        
         ข้าพเจ้า ได้มีโอกาสรู้จักหลวงเมือง จากหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ คอลัมน์"นาฎกรรมเมืองหลวง" สมัยนั้นจำได้ว่า ราคา 35 บาท โดยบอกรับกับเด็กส่งหนังสือพิมพ์เป็นรายสัปดาห์  ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ เนื่องจากว่ารายได้ เมื่อหักกลบลบหนี้แล้วไม่เหลือพอค่าหนังสือพิมพ์ฯ  ได้แต่แอบอ่านจากห้องสมุดประชาชนแถวบ้าน นั่นทำให้ข้าพเจ้าต้องไปห้องสมุดทุกสัปดาห์เพื่ออ่านมติชนฯ
          คอลัมน์แรกที่เปิดอ่านในมติชนฯ คือ นาฎกรรมเมืองหลวง ซึ่งเขียนโดย หลวงเมือง ซึ่งเรื่องท่านเขียนสนุก ชวนคิด น่าติดตาม ในทุกเรื่องข้าพเจ้าอ่านด้วยความสนใจ และบางข้อความของเรื่องที่เขียน ข้าพเจ้าจะขีดเส้นไว้ เพื่อหาคำตอบ และเฝ้ารอมติชนฉบับถัดไปด้วยใจระทึก  นับได้ว่าเป็นความโหยหาเลยทีเดียว เมื่อถึงวันศุกร์เอากระปุกไปใส่กระเป๋า เมื่อถึงวันเสาร์มติชนสุดฯ จะมาส่งล่ะ (ดีใจจัง)
          เรื่องเล่าที่น่าสนใจ อันดับหนึ่งในใจของข้าพเจ้า เป็นเรื่องราวลี้ลับทางจิต ที่ผู้เขียนสรรหามาเล่า ราวกับว่าผู้เขียนเป็นผู้ทรงฌาณสมาบัติ ที่สามารถรู้เรื่องราวของมิติต่าง ๆ อันบุคคลที่มีชีวิตส่วนใหญ่ล้วนให้ความสนใจ

          สำหรับ นามปากกา "หลวงเมือง" ข้าพเจ้า เคยนึกในใจว่า คนที่ใช้นามปากกานี้ คงเป็นคนเก่า คนแก่ ที่มีชีวิตอยู่สมัยประเทศไทยยังมีการใช้บรรดาศักดิ์ ซึ่งท่านผู้เขียนนี้คงมีประสบการณ์ ผ่านโลกและชีวิตมายาวนาน จึงได้มีเรื่องเล่าแปลก ๆ ให้ได้อ่านกัน ซึ่งเป็นไปได้ว่า ท่านผู้เขียนคงชรามากแล้ว ซึ่งคงได้แต่คิด เพราะไม่ได้ไปค้นหาว่า ท่านที่ใช้นามปากกา "หลวงเมือง" ท่านเป็นใคร แค่ได้อ่านก็พอใจแล้วนะ
         คอลัมน์ถัดไปที่จะขาดเสียมิได้ คือ ดูดวงประจำสัปดาห์ โดย หมอทรัพย์ สวนพลู  ซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจเอาเองว่า ท่านหมอทรัพย์ คงจะต้องอยู่ในซอยสวนพลูแน่ เลยตั้งชื่อว่าหมอทรัพย์ สวนพลู ซึ่งข้าพเจ้าได้ติดตามผลงานการดูดวง ดูดาว มาตลอดตามปะสามนุษย์ซึ่งมักจะมีเรื่องมีราว ทุกข์อกทุกข์ใจ จากการงานบ้างล่ะ จากการเงินบ้างล่ะ จากชีวิตหนุ่มสาว อกรักรักขมบ้างล่ะ  ซึ่งมีทั้งดวงประจำวัน อันนี้ไม่ได้ติดตาม ดวงประจำสัปดาห์ ชอบมาก และดวงประจำปี จะมาทุกปลายปีเลยทีเดียว ซึ่งการได้อ่านคอลัมน์นี้ ทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตได้มากเลย โดยอาศัยศาสตร์แห่งการพยากรณ์ นั่นเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าต้องไปศึกษาวิชาดูดวงกับเขาบ้าง ก็ไม่ได้ไปศึกษาไกลหรอก ในมติชนสุดฯ ก็มีโหราจารย์ ท่าน ศ.ดุสิต เขียนอธิบายวิชาโหราศาสตร์ไว้อย่างแยบยล ทำให้ข้าพเจ้าต้องแอบขอเรียนวิชา เลข 7 ตัวของท่านบ้าง ส่วนวิชาโหราศาสตร์ไทยที่ ท่าน ศ.ดุสิต สอน บอกตามตรงเลยท่านสอนดีมาก แต่ลูกศิษย์ความรู้น้อย เลยขอเรียนเพียงอย่างเดียว กราบขอขมา ท่าน ศ.ดุสิต ด้วยครับ
         ซึ่งในการอ่านคอลัมน์ ดูดวงประจำสัปดาห์ บางครั้งบางที ข้าพเจ้าเกิดความทุกข์ใจอยู่ ท่านหมอทรัพย์สวนพูลก็ออกคำทำนาย ว่า อีกไม่นานเรื่องที่กำลังทุกข์อยู่ก็จะจางคลาย เนื่องจากดาวศุกร์ได้เคลื่อนย้ายออกจากการเล็งดาวมฤตยู ทำให้มีกำลังใจในแง่ที่ว่า ความทุกข์ที่ข้าพเจ้ากำลังเผชิญอยู่นั้น อีกไม่นานหรอกนะความทุกข์มันก็จะจางคลายไปตามระยะเวลา ไม่ได้ทุกข์อยู่ตลอดกาลตลอดสมัยหรอกน่า เพราะทุกข์นี้จรไป ทุกข์ใหม่ก็จรมา 5555
          หนังสืออีกเล่มที่ข้าพเจ้าจะต้องซื้อมาทุกสิ้นปีก็คือ ศาสตร์แห่งโหร โดยเน้นอ่านของท่านหมอทรัพย์สวนพลูก่อนอันดับแรก ๆ และมักจะนำเอา ศาสตร์แห่งโหรในแต่ละปีมาเปรียบเทียบกัน เพื่อดูความเป็นไปของดวงดาวที่โหรแต่ละท่านทำนาย กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในชีวิต  นับว่าช่วยได้มากทีเดียว
          แต่ระยะหลังข้าพเจ้าไม่ได้ติดตามแล้วว่าหนังสือศาสตร์แห่งโหร ยังคงมีอยู่หรือหายไปจากสำนักพิมพ์มติชนแล้ว  และระยะหลังนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับหนังสือพิมพ์มติชนฯ เป็นประจำอีก เนื่องจากว่า ไม่มีคอลัมน์ "นาฎกรรมเมืองหลวง" และมีเหตุต้องย้ายที่ทำงานทำให้ห่างจากหนังสือพิมพ์มติชนฯ ไป ก็หลังจากที่มีการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557
           เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 รู้สึกคิดถึง คอลัมน์ "นาฎกรรมเมืองหลวง" จึงค้นหน้าใน Google จึงทราบว่า หลวงเมือง ผู้เขียน นาฎกรรมเมืองหลวง ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 92 ปี ซึ่งได้สวดพระอภิธรรมศพ ที่ศาลา 1 วัดโสมนัสราชวรวิหาร วันที่ 10 -16 มีนาคม 2563 และได้มีการฌาปนกิจศพ วันที่ 17 มีนาคม 2563  นั่นทำให้ข้าพเจ้าหมดโอกาสที่จะแสดงความเคารพท่านในฐานะผู้ "ให้วิชา" ข้าพเจ้าจึงต้องเขียนเรื่องราว แสดงความอาลัยไว้ใน Blog ส่วนตัวนี้
          ส่วนประวัติส่วนตัวของท่านมีเขียนไว้ใน Wikipedia ใครที่สนใจสามารถหาอ่านได้ตามสะดวก
          สำหรับข้าพเจ้า รู้สึกเสียดาย นับจากนี้จะหาใครมาเล่าเรื่องราวความเป็นไปในเมืองหลวงให้รู้อีก  ใครจะเล่าเรื่องราวความมหัศจรรย์ทางจิต และเรื่องเล่าที่คนเป็นไม่ทราบอีก จะหาโหราจารย์ท่านใดที่มีลีลาการพยากรณ์ดุจนักประพันธ์เอกอุ จูงใจให้คนดีใจ ให้กำลังใจ ให้ระวังภัยดังเช่นท่านอีก
          สำหรับท่านผู้จากไป คงไม่มีอะไรค้างคาในโลกนี้อีกต่อไป และคงหมดความสงสัยในเส้นทางที่ท่านดำเนินไป
         ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณท่านด้วยใจ แม้เพียบพบผ่านตัวหนังสือ
         ข้าพเจ้า ขอแสดงความเสียใจ กับญาติสนิท มิตรสหาย ของท่านผู้จากไป.....หลวงเมือง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น